Private Key คือ ชุดข้อมูลที่สำคัญอีกตัวหนึ่งที่เราจะต้องมี เป็น "Password" ของเจ้าของบัญชีเพื่อไขกุญแจดิจิทัลไปสู่ข้อมูลที่ต้องการได้ซึ่งเป็นรหัสที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนเจ้าของกระเป๋าสตางค์ เป็นข้อมูลที่ห้ามให้ผู้อื่นเข้าถึงได้โดยเด็ดขาด
ยกตัวอย่างเทียบง่ายๆ เหมือนคุณเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ต้องกรอก PIN 6 ตัว ที่มีคุณเพียงคนเดียวที่ทราบรหัสนั้น
ในยุคแรก ๆ กระเป๋าเงินดิจิทัลจะสามารถเอาไว้ใช้เก็บเงิน Cryp-tocurrency ได้จำกัดชนิด คือเหรียญ Cryptocurrency ขนิดไหน ก็ต้องสร้างกระเป๋าเก็บเงินขึ้นมาให้ตรงกับเงินสกุลชนิดนั้น หรือ อย่างดีก็เก็บเงินชนิดอื่นๆ ได้อีกแค่ไม่กี่สกุลเงิน แต่ปัจจุบันมีการพัฒนากระเป๋าเงินเพื่อเก็บเงิน Cyptocurrency ที่ซื้อขายกันในตลาดได้แทบทุกสกุลเงิน กระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียง และเก็บเงินได้แทบทุกสกุลนี้ซื่อก็คือ Ether Wallet
โดยผู้สร้างก็คือบริษัท Google โดย Google เองก็มีสกุลเงินดิจิทัลที่ตัวเองสร้างเอาไว้ก็คือ Ethereum (ETH) และ Ethereum Classic ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักประเภทของมันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
*อย่างไรก็ตาม ในที่นี้ ไม่ขอเอ่ยถึงวิธีการสมัคร หรือการเข้าไปใช้บริการของ E-Wallet แต่ละยี่ห้อ เพราะมีผู้ให้บริการมากมายหลายเจ้า สิ่งที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นและข้อแนะนำเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจจะใช้กระเป๋าแบบใด ยี่ห้อใด บริการจากที่ใด ล้วนเป็นวิจารณญาณของผู้อ่านเอง