LINE OA คืออะไร? ทำไมต้องใช้ LINE OA

LINE Official Account 

หรือ LINE OA คือ 

คือแพลตฟอร์มในลักษณะเดียวกันเพียงแต่มีจุดประสงค์เพื่อการทำธุรกิจโดยเฉพาะ 

จุดเด่นของ LINE OA นั้นคือการที่มีฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจง่ายยิ่งขึ้นทั้งในแง่ของการจัดการไปจนถึงการอำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้าและกับผู้ขายด้วย ดังนั้น LINE Official Account จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับตั้งแต่ธุรกิจระดับ SMEs ไปจนถึงแบรนด์ขนาดใหญ่ โดยธุรกิจต่างๆ สามารถทำกิจกรรมทางการขายได้หลากหลายและอิสระพร้อมลูกเล่นมากมายที่จะทำให้การโปรโมทสินค้า บริการ เป็นเรื่องน่าสนใจรวมทั้งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

บัญชี LINE OFFICIAL ACCOUNT มีกี่ประเภท

สำหรับ LINE OA นั้นได้มีการแบ่งประเภทของบัญชีไว้เป็น 3 ลำดับดังต่อไปนี้

1. Premium Account (บัญชีพรีเมียม) – โล่สีเขียว

บัญชีธุรกิจที่มีไว้เฉพาะสำหรับองค์กร ธุรกิจขนาดใหญ่หรือหน่วยงานราชการ การจะได้มาซึ่งบัญชีประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก (หลักล้านบาท) และต้องเข้าไปพูดคุยกับ LINE Thailand โดยตรง ไม่สามารถกดสมัครได้ด้วยตนเองเหมือนกับบัญชีประเภทอื่นๆ

จุดเด่นของบัญชีประเภทนี้คือคุณจะสามารถใช้งาน Sponsor Sticker (สติ๊กเกอร์ที่ให้ผู้ใช้โหลดไปใช้ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ) 

2. Verified Account (บัญชีรับรอง) – โล่สีน้ำเงิน

บัญชีที่ได้รับการรับรองจาก LINE โดยหากคุณอยากสมัครเป็นบัญชีประเภทนี้ก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง จะเลือกสมัครตั้งแต่เริ่มสร้างบัญชีใหม่เลยหรือหากคุณมีบัญชีประเภท Unverified Account อยู่แล้วก็สามารถสมัครในภายหลังได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการอยู่ที่ 888 บาท ตลอดอายุการใช้งาน (ข้อมูลอัปเดต ณ วันที่ 15 ตุลามคม 2563)

การได้มาซึ่งบัญชีประเภทนี้ข้อดีคือธุรกิจของคุณจะมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นและยังสามารถค้นหาเจอได้บนแอปฯ LINE Chat รวมถึงดาวน์โหลดโปสเตอร์ LINE Characters ไปใช้งานได้

3. Unverified Account (บัญชีทั่วไป) – โล่สีเทา

บัญชีทั่วไป ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานต่างๆ ได้ตามปกติ บัญชีประเภทนี้คุณสามารถสมัครได้ด้วยตนเองและไม่มีค่าใช้จ่าย

5 ฟีเจอร์ที่ LINE OA ช่วยให้การขายง่ายยิ่งขึ้น

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมักจะต้องเจอเสมอนั่นคือ “การรับมือกับลูกค้าตอนที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย” ส่วนมากพอขายดิบขายดีก็จะเจอปัญหาอย่าง ตอบแชทช้าไม่ทันใจลูกค้า ให้ข้อมูลไม่ละเอียด ส่งสินค้าล่าช้า ส่งผิด ส่งไม่ครบ ฯลฯ นั่นเป็นเพราะปัจจุบันการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์นั้นเราไม่สามารถอยู่บนแพลตฟอร์มใด แพลตฟอร์มหนึ่งได้อย่างเบ็ดเสร็จ

เรามีทั้ง Facebook Page, Instagram, Twitter ฯลฯ ในแต่ละแพลตฟอร์มก็มักจะมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป คราวนี้ปัญหามันก็มักจะเกิดตรงที่ พอถึงเวลาขายดีลูกค้าก็ทักเข้ามาถาม สนใจสั่งซื้อพร้อมๆ กันในทุกๆ ช่องทาง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ตกหล่นเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจหันมาสนใจใช้ LINE Official Account เนื่องจากตัวแอปฯ มีฟีเจอร์มากมายที่จะช่วยให้การขายง่ายยิ่งขึ้นและลูกค้าเองก็ใช้ LINE Chat กันเป็นปกติอยู่แล้ว

1. Chat Tag

คุณสามารถแบ่งผู้ติดตามออกเป็นกลุ่มๆ ได้ด้วยการติด Tag ไว้ด้านล่างชื่อลูกค้า โดยข้อดีของการติด Chat Tag นั้นจะช่วยให้คุณสามารถจดจำได้ว่าลูกค้าที่คุณเคยคุยหรือเพิ่งคุยคนนั้นเขาเป็นใคร ซึ่งการติด Tag นั้นสามารถทำได้อย่างอิสระตามที่คุณต้องการ อาจจะแบ่งเป็นประเภทของยอดใช้จ่ายเช่น ลูกค้าทั่วไป ลูกค้า Premium ลูกค้า VIP ฯลฯ หรือจะแบ่งตามลักษณะนิสัยและสถานะต่างๆ อย่าง ลูกค้าใหม่ คอนเฟิร์มแล้ โอนแล้ว ดูแลเป็นพิเศษ หรืออะไรก็แล้วแต่เท่าที่คุณจะคิดออก

สำหรับ Chat Tag ใน LINE OA นั้นสามารถสร้างได้สูงสุดถึง 200 อันโดยแต่ละคำจะต้องมีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษร ลูกค้า 1 คนสามารถติด Chat Tag ได้สูงสุด 10 อันและที่สำคัญคือ Tag นี้คนที่เป็นแอดมิน LINE OA ของร้านเท่านั้นที่จะเห็นได้ ดังนั้นคุณจะตั้ง Tag ไว้อย่างไรก็ได้ (แต่อย่าเผลอแคปหน้าจอแชทที่มี Tag ติดไว้ส่งให้ลูกค้าเชียวล่ะ เดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา)

2. Premium ID

โดยปกติแล้วเวลาคุณสมัครใช้บริการ LINE Official Account ทางระบบก็จะให้ ID แบบสุ่มเอาไว้สำหรับให้ลูกค้าค้นหาคุณเจอ แต่ ID เหล่านั้นจะเป็นตัวหนังสือผสมกันไม่เป็นคำ ทำให้หนึ่งเลยคือจำยากและว่าลูกค้าคงไม่อยากจะค้นหาชื่ออย่าง @Ax3DLI24c7แน่นอน ดังนั้นการใช้ Premium ID จะช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาคุณเจอได้ด้วยชื่อที่คุณตั้งขึ้นเอง 

คุณสามรถทำการสมัครซื้อ Premium ID ได้ด้วยตนเองโดยมีค่าบริการอยู่ที่ $12 ต่อปี การตั้งชื่อ Premium ID ใน LINE OA นั้นจะต้องไม่ซ้ำกับคนอื่น มีความยาวไม่เกิน 18 ตัวอักษรและต้องเป็นภาษาอังกฤษอักษรเล็ก รวมถึงเครื่องหมายจุด (“.”) ขีดกลาง (“-”), และขีดล่าง (“_”) เท่านั้น

***หมายเหตุ: หากคุณสมัคร Premium ID ไปแล้วและต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ คุณสามารถทำการสมัครใหม่ (ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกครั้ง) ได้ทันทีหากคุณใช้โทรศัพท์มือถือระบบ Android แต่ถ้าหากคุณจะทำการสมัครผ่านระบบ IOS ล่ะก็ เมื่อทำการสมัครเสร็จสิ้นแล้วจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนชื่อได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ดังนั้นหากคุณใช้มือถือ IOS เราแนะนำให้สมัครซื้อ Premium ID

ผ่านระบบ LINE OA บนคอมพิวเตอร์จะดีกว่า

3. Coupons & Reward Cards

อีกหนึ่งกิจกรรมทางการตลาดที่จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ซื้อบ่อยๆ คือปองสมมนาคุณและการสะสมแต้มแลกของรางวัล ซึ่ง LINE Official Account ก็ตอบโจทย์ในเรื่องนี้เช่นกันกับฟีเจอร์ Coupons แต่ปัญหาของการมีคูปองแบบเดิมๆ คือลูกค้าไม่ค่อยชอบพกคูปองบ้าง หายบ้าง ไม่ก็ลืมเอาไว้ที่บ้าน แต่ใน LINE OA นั้นจะมาในรูปแบบของ E-Coupon ที่ทั้งสะดวกสบายไม่ต้องกลัวว่าคูปองจะหาย โดยคุณสามารถสร้างคูปองใน LINE OA ทั้งผ่านโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ โดยจุดเด่นของคูปองคือ

– สามารถตั้งวันเริ่มต้น – หมดอายุได้ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า 

– กำหนดได้ว่าจะให้ใช้งานได้เพียงครั้งเดียวหรือใช้ซ้ำได้

– สามารถนำไปใช้งานกับฟีเจอร์อื่นๆ อาทิ Broadcast, Timeline, Chat, Greeting Message, Auto Reply ได้

– มีประเภทคูปองให้เลือกหลากหลาย เช่น ลดราคา แจกฟรี บัตรของขวัญ หรือให้ Cashback เป็นต้น

หากคูปองยังไม่จุใจ LINE Official Account ก็ยังมี Reward Cards หรือบัตรสะสมแต้มซึ่งจะช่วยให้คุณมีกิจกรรมไว้สำหรับเพิ่มความถี่ในการซื้อซ้ำของลูกค้าได้อีกทางหนึ่งโดยคุณสามารถเพิ่มรางวัลเมื่อลูกค้าสะสมแต้มจนครบ หรือจะใส่รางวัลปลีกย่อยลงไปเช่น สะสมครบ 3 ดวง รับทันที… สะสมต่ออีก 5 ดวง รับทันที… และเมื่อสะสมจนครบ 10 ดวงจะได้รางวัลใหญ่ ฯลฯ 

โดยปกติแล้วเมื่อลูกค้าสะสมจนครบระบบจะทำการเปิดบัตรใหม่ให้โดยอัตโนมัติ แต่หถ้าคุณต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีก ก็สามารถทำบัตรพรีเมียม (Create Upgrade Card) เพื่อให้ลูกค้าสะสมต่อไปอีกเพื่อรางวัลใหญ่พิเศษ เป็นต้น

4. Rich Menu

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำคนหันมาใช้ LINE OA ในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ สำหรับ Rich Menu นั้นก็คือภาพขนาดใหญ่ด้านล่างหน้าจอแชท ที่จะแสดงขึ้นมาเมื่อลูกค้าต้องการที่จะเข้ามาแชทพูดคุยกับทางร้าน สิ่งที่ทำให้ Rich Menu เป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็ตรงที่ เราสามารถใส่แอ็กชันเข้าไปได้สูงสุดถึง 6 แอ็กชัน ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ที่กำหนดหรือแอ็กชันอื่นๆ ได้แก่ คูปอง ข้อความและบัตรสะสมแต้ม

โดยคุณสามารถออกแบบ Rich Menu ของคุณได้อย่างอิสระ ยิ่งออกแบบให้ใช้งานง่ายและสวยงามน่าดึงดูดจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอยากใช้งานมากขึ้น โดยปกติลแล้วในระบบก็จะมี Template ให้คุณเลือก คุณก็เพียงแค่ออกแบบภาพให้ตรงกับ Template นั้นๆ แค่นั้นเอง

5. MyShop

ฟีเจอร์ที่จะทำให้คุณสามารถมีเว็บไซต์ E-Commerce เป็นของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจุดเด่นของ MyShop คือการทำงานร่วมกันกับ LINE Official Account ให้การซื้อสินค้าของลูกค้าสะดวกสบายและไม่ต้องวุ่นวายกับการ เข้า-ออกหลายแอปฯ อีกต่อไป 

หากเป็นวิธีการแบบที่ทำกันอยู่ ปกติแล้วเมื่อลูกค้าพูดคุยตกลงจะสั่งซื้อสินค้ากับผู้ขาย ลูกค้าก็จะต้องออกจากแอป LINE เพื่อไปยังแอปธนาคาร ทำการโอนเงินเสร็จเรียบร้อยก็จะต้องกลับมายังแอป LINE เพื่อส่งสลิปการโอนเงินนั้นให้กับผู้ขาย ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและเสียเวลาอย่างมาก (แต่เราทำกันจนชิน) หากแต่ถ้าคุณมาใช้ MyShop ล่ะก็ลูกค้าสามารถทำการเลือกซื้อสินค้า แชทสอบถาม กดสั่งซื้อจ่ายเงินทางแอป LINE ได้ในที่เดียว โดยทางฝั่งผู้ขายข้อมูลต่างๆ ก็จะถูกซิงค์เข้ากับ LINE OA โดยอัตโนมัติ

หากคุณมีบัญชี LINE Official Account อยู่แล้วก็สามารถสมัครเปิดร้านค้าของตัวเองได้ฟรี แต่ถ้ายังไม่มี LINE OA เป็นของตัวเอง คุณจะต้องสมัคร LINE OA เสียก่อน 

ราคาแพคเกจ LINE OA ฉบับอัปเดต

สำหรับการส่งข้อความบน LINE OA นั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา (หากคุณใช้เกินจำนวนที่แพคเกจนั้นๆ กำหนด) โดยรายละเอียดค่าใช้ง่ายมีดังต่อไปนี้

ฟรี = ไม่มีค่าใช้จ่าย | ส่งข้อความได้สูงสุด 1,000 ข้อความ

Basic = 1,200 บาท | ส่งได้ 15,000 ข้อความ (ตกข้อความละ 0.08 บาท)

Pro = 1,500 บาท | ส่งได้ 35,000 ข้อความ (ตกข้อความละ 0.04 บาท)

โดยทุกแพคเกจจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้เหมือนกัน ต่างกันที่จำนวนข้อความที่ส่งออกไปได้เท่านั้น ซึ่งการนับจำนวนข้อความ ไม่ได้นับเป็นจำนวนครั้งที่ส่งออกไป แต่นับตามจำนวน Target Reach (คนที่ติดตามและยัง Active อยู่) ดังนั้นหากคุณมี Target Reach เยอะ การส่งข้อความ Broadcast ออกไปหนึ่งครั้งก็จะมีการใช้จำนวนข้อความที่เยอะตามไปด้วย

ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาก็คือ เวลาส่งหนึ่งครั้งควรใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า การ Broadcast หนึ่งครั้งจะส่งข้อความได้ 3 บอลลูนโดยในนั้นคุณจะใส่เป็นข้อความทั้งหมดหรือจะเพิ่มเป็น ข้อความ รูปภาพ สติ๊กเกอร์ ฯลฯ ก็ได้ หรือที่นิยมใช้กันอย่างมากสำหรับธุรกิจที่มีสินค้าหลายชิ้น ก็จะเป็น “Card Massage” ที่ส่งครั้งนึงได้สูงสุดถึง 9 การ์ด เท่ากับว่าหากคุณส่งด้วย Card Massage ทั้ง 3 บอลลูน คุณจะสามารถส่งข้อมูลครั้งนึงได้ถึง 9×3 = 27 ภาพเลยทีเดียว

วิธีสมัคร LINE OA

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วและรู้สึกว่าอยากจะมีบัญชี LINE Official Account เป็นของตัวเองบ้าง วิธีการสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยการสร้างบัญชี LINE OA สามารถทำได้ 2 วิธีดังต่อไปนี้

สร้างบัญชีจากคอมพิวเตอร์

เข้าไปที่เว็บไซต์ www.linebiz.com เลื่อนลงมาจะเห็นชื่อ LINE Official Account คลิก “ดูเพิ่มเติม”

คลิกที่ “สร้างบัญชีทั่วไป” หรือ “สร้างบัญชีรับรอง” ตามแต่ประเภทบัญชีที่คุณต้องการสมัคร 

คลิก Log in with LINE Account หากยังไม่มีให้ทำการสร้างบัญชี LINE Account เสียก่อน 

1. กรอกข้อมูลบัญชี รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนจากนั้นคลิก “ดำเนินการต่อ” 

สร้างบัญชีจากโทรศัพท์มือถือ

1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE Official Account 

2.เลือก “Log in with LINE app” หรือ Login with Email” (แนะนำ Log in ผ่านแอป จะสะดวกยิ่งกว่า)

3.มุมบนด้านซ้าย สัญลักษณ์เมนู เลือก “สร้างบัญชี” 

1. กรอกข้อมูลบัญชี รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนจากนั้นคลิก “ตกลง” 

*อย่าลืมอ่านข้อกำหนดการใช้บริการของ LINE Official Account ก่อนสมัครใช้งาน

ในปัจจุบันการทำธุรกิจออนไลน์แบบที่สามารถเข้าถึง โต้ตอบหรือแก้ปัญหาของลูกค้าได้เร็ว เป็นปัจจัยและตัวแปรสำคัญในการทำให้ร้านของคุณเป็นที่ที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ แนะนำเพื่อนๆ ให้มาซื้อกับร้านคุณได้ ดังนั้นการที่มีเครื่องมือมาช่วยทำให้งานเหล่านี้ลุล่วงได้สะดวกมากเท่าไร คุณก็จะทำงานและเหนื่อยน้อยลงเท่านั้น

สำหรับ LINE Official Account หรือ LINE OA เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมากทั้งเรื่องของฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทาง LINE เองก็คอยฟังเสียงผู้ใช้งานและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้คุ้มค่าแค่ไหน

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก #เบียรไอที
https://www.wismarketing.co.th/

ติดตามเนื้อหา ดีดีเรื่อง ไอที ได้เพียง คลิค 

beertelecorsaBeer TeleCorsa เบียร์ไอที

ขอบคุณแหล่งที่มา ของข้อมูลข้างต้น 

จากLINE OA คืออะไร เครื่องมือที่ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น (primal.co.th)