0

(0)

ส่องกลยุทธ์การตลาด 5A แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0


2021-08-23 16:22:32
#ส่องกลยุทธ์การตลาด #การตลาด 5A #แผนการตลาด #กลยุทธ์การตลาด 5A #แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0

ส่องกลยุทธ์การตลาด 5A แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0


การตลาด นั้น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเชื่อมระหว่าง ผลิตภัณฑ์ กับ ผู้บริโภคให้เข้าถึงกันมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักหรือสามารถเข้าถึงสินค้าได้เหมือนในอดีตอีกแล้ว แต่การตลาดในปัจจุบันนี้คือการเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค และสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง 


ดังนั้นแล้ว การตลาดจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างมาก ที่เจ้าของกิจการต้องให้ความสนใจ ยิ่งในยุคที่มีการแข่งขันสูงแบบนี้ ธุรกิจที่มีความเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่านั้นยิ่งมีโอกาสที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จมากกว่าเป็นไหนๆ  



หลักการ 5A แตกต่างจากการตลาดแบบเดิมๆอย่างไร?

เพราะว่าในปัจจุบันนี้นั้นแตกต่างจากในสมัยก่อนนที่แบรนด์ต่างๆจะผลิตสินค้าออกมา ถ้าหากว่าลูกค้ามองเห็นถึงประโยนช์หรือตรงกับความต้องการก็จะเลือกซื้อสินค้านั้นไปบริโภค แต่สำหรับในปัจจุบันที่ทุกคนนั้น ติดตามข่าวสารจากจากโทรศัพท์มือถือ หรือใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลา ทำให้การตลาดรูปแบบเดิมๆนั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป  


Philip Kotler เจ้าของหนังสือ Marketing 4.0 จึงได้เริ่มคิดถึงการตลาดแบบใหม่ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนทั่วโลกมากขึ้น จึงได้เกิดเป็น ทฤษฎีการตลาด 5A นี้ขึ้น  

1. รู้จักสินค้า (Aware) 

ขั้นตอนแรกคือการทำยังไงให้ลูกค้ารับรู้ความมีตัวตนของสินค้าเรา หากคุณพูดถึงครีมทาผิว ก็คนจะมีชื่อแบรนด์ขึ้นมาให้หัวของคุณเต็มไปหมดและยังมีอีกหลายแบรนด์ที่มีขายผลิตภัณฑ์ประเภทครีมทาผิวด้วยเช่นกันแต่คุณกลับไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นแบรนด์นั้นมาก่อน และถ้าหากว่าคุณคือเจ้าของกิจการ ในยุคปัจจุบันทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟน และออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ผู้ประกอบการสามารถใช้ช่องทางเช่นโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือการโฆษณาทางออนไลน์ให้ลูกค้ารู้ว่ามีสินค้านี้อยู่แล้ว ก็ได้เช่นกัน หลักการคือทำให้เห็นบ่อยๆ แล้วเขาจะจำได้ แต่ต้องระวังอย่าให้มากเกินไปจนกลายเป็นรำคาญค่ะ 


2. ชื่นชอบสินค้า (Appeal)  

หลังจากทำให้ลูกค้าเห็นละจดจำแบรนด์หรือสินค้าของเราได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือทำอย่างไร ลูกค้าจึงจะอยากรู้จักสินค้าของเราให้มากขึ้น ในขั้นตอนนี้การพึ่งพาเว็บไวต์ เพื่อให้ข้อมูลสำคัญมากค่ะ การทำคอนเท้นต์ถือเป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ในยุค 4.0 ซึ่งนอกเหนือจากการที่เจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจทั้งหลายนั้นจะต้องทำให้คนเห็นหรือรู้จักแบรนด์แล้วยังต้องนำเสนอคอนเท้นต์ที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ให้ประโยชน์กับผู้บริโภคและทำให้ผู้บริโภคนั้นชอบและประทับใจในแบรนด์ของคุณ


3. Ask (เรียนรู้)  

เมื่อลูกค้าซุ่มสังเกตดูสินค้าของเรามาระยะหนึ่งแล้ว เขาจะเริ่มต้องการข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งในกระบวนการนี้ การสอบถามจากคนใกล้ตัวที่มีประสบการณ์กับสินค้าชนิดนี้มาก่อน เป็นเรื่องสำคัญมาก หลายๆ แบรนด์จึงเลือกใช้ Influencer เพื่อช่วยเป็นผู้ตอบคำถามและกระตุ้นความต้องการของลูกค้า รวมถึงอาจมีการสอบถามเข้ามาที่ผู้ประกอบการเพื่อขอข้อมูล แต่ในขั้นตอนนี้ “ลูกค้าจะยังไม่ซื้อ” ทำให้ต้องวางแผนการตลาดในขั้นตอนต่อไปเพื่อให้เราประสบความสำเร็จในการขาย เพราะการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ว่าใครก็สามารถบอกต่อหรือหาความรู้ได้จากอินเตอร์เนตทำให้ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ จากเว็บไซต์ คอมมูนิตี้ การรีวิวบอกต่อ หรือ ติดต่อคนขายเพื่อขอข้อมูลโดยตรงจากแบรนด์ได้ทันที


4. Act (การใช้บริการ)   

จากการเก็บข้อมูลในข้างต้นทำให้เกิดขั้นตอนที่ผู้บริโภคตัดสินใจ เลือกซื้อ หรือใช้บริการของแบรนด์นั้นๆ ผ่านการซื้อหน้าร้านค้า ระบบออนไลน์ หรือช่องทางต่างๆ โดยมีการเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่ากับแบรนด์อื่นๆแล้วก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยผ่านกระบวนการและขั้นตอนการคิดอย่างลึกซึ้งถึงปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขาย อายุของการใช้งาน หรือ คาดหวังในผลลัพธ์ที่จะได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้งาน ซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นการมีหน้าร้านค้านั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์กับความต้องการเสมอไป การสร้างหน้าร้านของคุณในแบบออนไลน์ก็จะสามารถช่วยให้ขั้นตอนการซื้อหรือการจ่ายเงินนั้นง่ายขึ้น รวมถึงการบริการในการส่งหรือ Delivery นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้ เพราะสะดวกกับคนที่ไม่สะดวกในเรื่องของเวลา และการเดินทาง


5. Advocate (ใช้ซ้ำ)  

เราจะพบมากขึ้นว่าลูกค้ามีความคาดหวังกับทั้งสินค้าและบริการหลังการขาย ถ้าซื้อแล้วใช้ดี มีบริการที่น่าประทับใจ ลูกค้าในยุคปัจจุบันจึงชอบที่จะบอกต่อ และการบอกต่อนี้เองที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ ซึ่งการเพิ่มส่วนของการรีวิว ในโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ให้ลูกค้าเข้ามาเขียนก็เป็นการบอกต่อที่เราไม่ต้องเพิ่มต้นทุนให้มากมาย แต่ทั้งนี้ความจริงใจก็ยังสำคัญ ผู้ประกอบการจึงต้องมีบริการหลังการขายที่ดี สำหรับสินค้าบางประเภท หลายครั้งที่ผู้บริโภคนั้นจะเปลี่ยนจากการเริ่มต้นใช้งานเพียงหนึ่งอย่างและเปลี่ยนเป็นลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์(Brand’s Loyalty) ด้วยการใช้ซ้ำ (Retention) และบอกต่อ (recommended) 


ข้อมูลบางส่วนจาก Cr.peerpower   

ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.prosoft.co.th/Article/Detail/118572   

ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.peerpower.co.th/blog/sme/marketing/marketing-4-0-kotler/   

ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.prosoftibiz.com/Article/Detail/107510   



 

 ค้นหาสินค้า เพิ่มเติม

 

 ค้นหาบทความ เพิ่มเติม

บริษัท กีรติตระการ โฮลดิ้ง จำกัด

 573 ถนนบำรุงเมือง แขวงคลองมหานาค
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100


โทร: 02-221-3434 มือถือ: 095-948-6651


Line: @telecorsa


Facebook: TeleCorsa


eMail: ts_puttigun@live.com

Copyright ® 2021 TeleCorsa.com