เปิดตัว iPhone 13,iPhone 13 mini,iPhone 13 Pro,iPhone 13 Pro Max
15 ก.ย. 64 Apple มีการเปิดตัว iPhone 13,iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ในงาน Apple Event “California streaming” มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย มาชมสรุปข้อมูลกันเลย
iPhone 13, iPhone 13 mini ยังคงใช้ดีไซน์โดยรวมเหมือน iPhone 12 แต่โดย iPhone 13 ใช้หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว ส่วน iPhone 13 mini หน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว มาพร้อม Ceramic Shield ด้านหน้า ที่ทนทาน กล้องคู่แนวทะแยง รอยบากเล็กลง
iPhone 13, iPhone 13 mini
iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ใช้หน้าจอ Super Retina XDR มาพร้อม ProMotion รองรับอัตราการดึงข้อมูลตั้งแต่ 10Hz ถึง 120Hz ตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ อย่างเช่น หากผู้ใช้ดูข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องใช้อัตราการดึงข้อมูลมากก็จะปรับอัตราการดึงข้อมูลแบบต่ำ ๆ ส่วนเนื้อหาที่มีการเคลื่อนไหวหรือรายละเอียดเยอะ ระบบก็จะปรับอัตราการดึงข้อมูลให้สูงขึ้น (ยิ่งสูงยิ่งลื่น)
iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ใช้กระจกหน้าจอแบบ Ceramic Shield, ปรับกล้องหน้า TrueDepth ให้เล็กลง 20% มีพื้นที่การแสดงผลมากขึ้น, กรอบตัวเครื่องใช้แบบสแตนเลสสตีล ฝาครอบเลนส์ใช้ผลึกแซฟไฟร์ และตัวเครื่องทนน้ำที่ระดับ IP68
ชิป A15 Bionic รวมถึงจอภาพ OLED ช่วยให้การจัดการพลังงานของหน้าจอประหยัดขึ้น
Apple ระบุว่าจอภาพเป็นจอที่สว่างที่สุดเท่าที่มีมาใน iPhone, ความสว่างกลางแจ้งสูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 25% เป็น 1,000 นิต
Apple ระบุว่ามีการปรับปรุงการออกแบบภายในช่วยให้แบตใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ iPhone 13 Pro มีเวลาใช้งานเพิ่มขึ้น 1.5 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีเวลาใช้งานเพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro Max
ส่วน iPhone 13, iPhone 13 mini มีเวลาใช้แบตเพิ่มขึ้น โดย Apple ระบุว่ามาจากชิป A15 Bionic และแบตที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ iPhone 13 มีเวลาใช้แบตเพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับ iPhone 12 ส่วน iPhone 13 mini มีเวลาใช้เพิ่มขึ้น 1.5 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone 12 mini
หน้าจอSuper Retina XDR
หน้าจอ Super Retina XDR มีความสว่างสูงสุดขณะอยู่กลางแจ้งเพิ่มขึ้น 28% เป็น 800 นิต, สว่างสูงสุด 1,200 นิต เมื่อเล่นเนื้อหา วิดีโอแบบ HDR
ด้านกล้องหลังนั้น iPhone 13, iPhone 13 mini ปรับปรุงระบบกล้องครั้งใหญ่ โดยกล้อง Wide มีพิกเซลขนาด 1.7 µm พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ รับแสงเพิ่มได้มากถึง 47% ช่วยให้ภาพสว่างขึ้น
นอกจากนั้นกล้อง Wide ของ iPhone 13, iPhone 13 mini ใช้กันภาพสั่น OIS แบบปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ ที่เคยมีเฉพาะใน iPhone 12 Pro Max และรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 ช่วยให้การถ่ายภาพ วิดีโอ ดีขึ้นมาก กล้อง Ultra-Wide ก็ได้รับการอัปเกรดเช่นกันมาพร้อมเซ็นเซอร์ใหม่ ช่วยให้เก็บภาพและวิดีโอในที่แสงน้อยได้ดี มีนอยซ์ลดลง
ส่วน iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max มาพร้อมระบบกล้องที่ดีที่สุดบน iPhone โดยใช้เซ็นเซอร์และเลนส์ใหม่สำหรับกล้องทั้ง 3 ตัว Wide, Ultra-Wide, Telephoto
กล้อง Wide มีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นด้วยพิกเซลขนาด 1.9 µm ช่วยลดนอยซ์ และเพิ่มความมไวชัตเตอร์เร็วขึ้น ทำให้ภาพมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น รวมถึงรูรับแสงขนาด ƒ/1.5 ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีสูงสุด 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro และ 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro Max
ที่ตัวกล้องยังใช้กันสั่นแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ (OIS) ช่วยให้ภาพคมชัด และวิดีโอนิ่ง ถึงแม้ผู้ใช้จะเคลื่อนไหวอยู่
iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max มาพร้อมความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB เป็นครั้งแรก
ส่วน ความจุใหม่ โดย iPhone 13, iPhone 13 mini มีความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
ราคาจำหน่าย iPhone 13, iPhone 13 mini มีดังนี้
iPhone 13 mini
iPhone 13
ราคาจำหน่าย iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max มีดังนี้
iPhone 13 Pro
iPhone 13 Pro Max
สำหรับวันจำหน่ายนั้น Apple จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 1 ต.ค. 64 นี้ และจะวางขายหน้าร้าน 8 ต.ค. 64
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://www.iphonemod.net/apple-introduces-iphone-13-pro-iphone-13-pro-max.html
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://www.iphonemod.net/apple-introduces-iphone-13-iphone-13-mini.html
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/shop/buy-iphone/iphone-13
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/iphone-13-pro/